27 เม.ย. 2557

รปภ.หน้าหมู่บ้าน



รปภ . ห น้ า ห มู่ บ้ า น
ยืนเปิดประตู แลกบัตร 
ตะเบ๊ะทำความเคารพรถที่วิ่งเข้าวิ่งออกหมู่บ้าน 

รปภ.ส่วนใหญ่จะสนใจในท่าทางของตัวเอง
ให้ดูดี ขึงขัง ตัวตรง ท่าทางทะมัดทะแมง

แต่มีรปภ.มืออาชีพ ที่ก็ทำอย่างนั้นเช่นกัน
แต่มิได้จดจ่อแต่เรื่องท่าทาง
กลับสังเกตพฤติกรรมของคนเข้า-ออกตลอดเวลาว่า
อากัปกิริยาเหล่านี้ชวนสงสัยหรือมีพิรุธไหม
ติดตามสอดส่อแม้นขับรถผ่านเข้าไปในหมู่บ้านแล้ว

รปภ.2ประเภทนี้
ประเภทแรกเรียก รปภ.กระจอก
ส่วนประเภทหลังเรียก [ รปภ.อาชาไนย ]

- อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม -
http://www.suanyindee.net/index.php?option=think&task=view&id=263


19 มี.ค. 2557

ถอดคำบรรยาย "พังประตูคุก" เข้มข้น 13 ตอนจบ

ขออนุญาตแนะนำพื้นที่รวมสำหรับคอร์ส " พังประตูคุก " ค่ะ

พังประตูคุก ( รวม 13 ตอนจบ )

http://way-middle.blogspot.com/p/blog-page.html
----------------------------------------------------------------
ถอดคำบรรยายธรรม ของ อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
จาก DVD คอร์สปฏิบัติธรรมในหลักสูตร มัคคานุคา เข้มระดับ 2
เมื่อวันที่ 25-29 มิถุนายน 2556 ณ สวนธรรมศรีปทุม


การบรรยายครั้งนี้
- มีเนื้อหาธรรมที่จำเป็นสำหรับการเดินทาง โดยเริ่มต้น
- อาจารยจะชี้ให้เห็นถึงความสำคัญของการเดินตามอริยมรรคมีองค์8
- ท่านจะชี้ให้เห็นและเข้าใจ "ขันธ์ 5 "
- มรรคมีองค์ 8 เป็นหนทางที่จะเปลี่ยนปุถุชนเป็นอริยชนได้อย่างไร?
- อาจารย์จะช่วยให้ท่านเห็นความเชื่อมโยงของอริยมรรค กับ อริยสัจ
อันแสดงถึงปัญญาการตรัสรู้่ของพระศาสดาที่เชื่อมโยงธรรมทุกข้อเข้าด้วยกัน
- และปฏิจจสมุปบาท ท่านเข้าใจมากน้อยแค่ไหน ?
มีการบรรยายปฏิจจสมุปบาทอย่างละเอียดพร้อมภาพบรรยาย

คลิกที่นี่

http://way-middle.blogspot.com/p/blog-page.html


หลังจากอ่านคำบรรยายธรรมจบแล้ว
ท่านจะได้คำตอบ
และคำตอบเหล่านั้นจะทำให้ท่านพ้นไปจาก "คุกแห่งสังสารวัฏ" ได้จริง!!!

6 มี.ค. 2557

ระลึกชาติได้



























ผู้ที่เข้าถึงอริยสัจ
จะเกิดญาณหยั่งรู้ในอดีตของตนไปได้
ไม่มีประมาณ

ชาติที่แล้วเกิดเป็นอะไร?
ชาติที่แล้วเกิดเป็น ทุ ก ข์

ชาติก่อนหน้านี้ล่ะ
ก่อนหน้านี้ก็เกิดเป็น ทุ ก ข์

ชาติไหนๆ ก็เกิดเป็น ทุ ก ข์ มาตลอด
จะเกิดเป็นแบบไหน
ก็มี ขั น ธ์ ๕ เปลี่ยนรูปแบบไปเรื่อยตามแต่สิ่งที่ทำกรรมมา

แล้ว ช า ติ ห น้ า ล่ะ
จะเกิดเป็นอะไร ?

[ ถ้าปัจจุบันไม่มีใคร
ชาติหน้าจะมี ใ ค ร !! ]

- อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม -
ข้อคิดมุมมองเพื่อปัญญาเรื่อง " ระลึกชาติได้ "

ใครมาปฏิบัติธรรม ?

เรามา ป ฏิ บั ติ ธ ร ร ม
เพื่อเพียรเพ่งเผากิเลส นั่งสมาธิ เดินจงกรม
วันหนึ่งกิเลสเราคงจะลดลง แล้วคงลดลงไปเรื่อยๆ 
หากเราปฏิบัติไปไม่หยุดแม้ในชีวิตประจำวันก็ตาม


































ตอนนี้หากแยกภาค
มันจะเหมือนกับมี " เ ร า " อยู่ในความรู้สึก
แล้วพา "กาย-ใจ" ของ เ ร า มาปฏิบัติ
...ใช่ไหม?

รู้ไหมว่า เรามาปฏิบัติธรรมน่ะ
เพื่อมาจัดการ " ไอ้ ค น ที่ พา กาย-ใจมานั่นล่ะ "

กาย-ใจ หรือ ขันธ์๕ นั้น เขาเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว
ที่ผิดธรรมชาติอยู่ ก็คือ "ไอ้ความรู้สึกเป็นตัวตนนั่นล่ะ"
แล้วยังโง่มาอวดดีอ้างตนว่า พา ตั ว เ อ ง มาทำความดีอีก

เวลามาปฏิบัติแล้วรู้สึกดี ว่าข้าได้ทำกุศล ได้ปฏิบัติธรรม
"ไอ้ความรู้สึกนั่นล่ะ" ที่เป็นกิเลส

ตกลงที่ว่ามาจัดการกิเลส จัดการใคร?
จัดการ " มึ ง " นั่นล่ะ !!!

หมดความรู้สึกนั้นเมื่อไหร่
หมดผู้มีอุปาทานเลยล่ะ
นั่นล่ะที่สุดแห่งทุกข์

- อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม -
ข้อคิดมุมมองเพื่อปัญา เรื่อง "ใครมาปฏิบัติธรรม ? "
http://www.suanyindee.net/index.php?option=think&task=view&id=262

5 มี.ค. 2557

พระธรรมเทศนา

พระธรรมเทศนาควรไปฟังที่ไหน ที่ไหนเทศน์ดี องค์ไหนสุดยอด ?


































พระธรรมเทศนาให้ไปฟังที่ 
กาย..เวทนา..จิต..ธัมมารมณ์ 
ทั้ง๔ ที่นี่ล่ะที่เทศน์ได้สุดยอด

ทั้ง๔ ที่นี่เขาเทศน์อะไรกัน?
เขาเทศน์แต่ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา เท่านั้น

แล้วดียังไง อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา ?
ดีเพราะ เราจะเกิดปัญญา

ปัญญาอะไร ?
ปัญญารู้ว่า
นี้..ทุกข์
นี้..เหตุให้เกิดทุกข์
นี้..ความดับแห่งทุกข์
นี้..หนทางให้ถึงความดับแห่งทุกข์

แล้ว นี้..ที่ว่าคืออะไร ถ้าเกิดปัญญา
นี้..แรก จะรู้ขึ้นมาว่า อุปาทานขันธ์ ๕ เป็นตัวทุกข์
นี้..ตัวที่สอง จะรู้ว่า ตัณหาและอวิชชา เป็นเหตุให้เกิดทุกข์
นี้..ตัวที่สาม จะรู้จัก นิพพาน
นี้..ตัวที่สี่ จะรู้จักทางสู่ความพ้นทุกข์คือ มรรค

แล้วรู้จักมรรคได้ยังไง
เพราะที่กำลังเจริญอยู่คือมรรคอยู่แล้ว
วันนี้เราใช้มรรคจากปัญญาการตรัสรู้ของพระพุทธองค์
แต่เมื่อเจริญตามที่ท่านบอก
จะรู้แจ้งขึ้นมาในมรรคที่เจริญอยู่แล้วซ้อนลงไปว่า
ที่กำลังเจริญอยู่คือหนทางให้ถึงความดับทุกข์

ไปฟังธรรมกันเถิด
เดิน เหิน หยิบ จับ , ดีใจ เสียใจ , โทสะ โลภะ โมหะ แขกจรของจิต
จิตเองเกิดๆ ดับๆ , อารมณ์ต่างๆเมื่อมีการกระทบ
ไม่ว่าจะเป็น กุศล อกุศล ล้วนเกิดดับ ว่างจากตัวตน

นี่ล่ะพระธรรมเทศนาที่แท้จริง
ไปฟังที่นี่ถึงจะหลุดพ้น

- อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม -
ข้อคิดมุมมองเพื่อปัญญา เรื่อง พระธรรมเทศนา
http://www.suanyindee.net/index.php?option=think&task=view&id=261

26 ม.ค. 2557

มนุษย์อยู่กับคิด ไม่เคยอยู่กับจริง


เมื่อ 1,000 ปีก่อน มนุษย์บนโลกไม่มีความรู้ใดๆ เกี่ยวกับโลกนี้
ทุกคนมีความเชื่อว่าโลกใบนี้แบน ไม่ว่าจะมีการพิสูจน์สักเท่าไหร่ 
ผลก็ออกมาว่าโลกใบนี้แบน ดังนั้นทุกคนจึง เชื่อว่าโลกนี้แบน

ต่อมา ถัดจากยุคนั้นมาหน่อย 
นักวิทยาศาสตร์ท่านหนึ่งเริ่มสังเกตมากขึ้น 
จนเริ่มเห็นความจริงว่าโลกที่เราอยู่นี้ไม่แบน มันน่าจะกลม 
แล้วจึงนำความคิดดังกล่าวนำไปประกาศบอกคนทั่วไปให้เชื่อตาม
โดยนำหลักการและเหตุผลที่ตนพบไปอธิบาย 
ผู้คนบางส่วนเริ่มเชื่อตาม เห็นคล้อยด้วย บางส่วนยังคงไม่เชื่อ
และเอาเหตุผลสารพัดของตัวเองออกมาคัดง้าง 
แต่ถึงกระนั้นนักวิทยาศาสตร์คนนั้น ก็ยังคงอยู่บนความคิด ความเชื่อของตนเองอยู่นั่นเอง
ถึงจะมีคนเชื่อตามแค่ไหน นั่นก็คือเชื่อตามๆ กันตามเหตุผลเท่านั้น

ถึงตรงนี้เราจะเห็นความจริงได้อย่างหนึ่งแน่ๆ คือ

25 ม.ค. 2557

มนุษย์ อยู่กับคิด 2



เมื่อครั้งก่อนเราได้อ่านเรื่อง "มนุษย์อยู่กับคิด ไม่ได้อยู่กับจริง"
วันนี้เราจะมาทำความเข้าใจกันต่ออีกหน่อย

ในครั้งก่อนเราบอกว่า เมื่อ 1,000 ปีก่อน มนุษย์อยู่กับคิด
ด้วยความเชื่อว่า โลกนี้แบน ทุกคนสอนกันมาให้เราเข้าใจ
และเชื่อกันมาอย่างนั้นว่าโลกที่เราอยู่นี้แบน
นี่คือความรู้ที่เราได้รับมาจากการถ่ายทอด
ให้ชื่อว่าความรู้ในระดับที่ 1

จากนั้นมีนักวิทยาศาสตร์เริ่มพิสูจน์จากการสังเกตว่า
มันไม่น่าแบนหรอก...มันกลม แล้วนำสิ่งที่เขาสังเกตมาบอกพวกเรา
เช่น หากเราออกเรือไปในมหาสมุทร เราจะเห็นเรือสักพักแล้วจะหายไป
เพราะผิวโลกที่โค้ง จึงทำให้เป็นอย่างนี้
เราเริ่มจินตนาการตามนักวิทยาศาสตร์ จนเราเชื่อตามว่า โลกนี้กลม
เราจะเรียกความรู้นี้เป็นความรู้ระดับที่ 2
เกิดจากการจินตนาการตาม
ไม่ใช่แค่ฟังและเชื่อตามเท่านั้นแต่มีเหตุมีผลคิดตามได้

จนมาถึงวันนี้
ภาพถ่ายดาวเทียมได้ทำให้เราประจักษ์แล้วว่าโลกนี้กลม
โดยหมดความลังเลสงสัย ต้องหาเหตุผลใดๆมาสนับสนุนอีก
เราเรียกความรู้นี้เป็นความรู้ระดับที่ 3

เอาล่ะทีนี้เรากลับมาสู่ความเข้าใจที่เป็นสรุปรวบยอดกัน

ภิกขาจาร




เรื่องหนึ่งที่โยมน้า เพื่อนของโยมแม่เคยเล่าให้ฟังว่า

เมื่อประมาณ  20 ปีมาแล้ว ท่านเคยเป็นอาจารย์สอนอยู่ที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่ง

ได้มีอาจารย์ ชาวต่างชาติ ถามว่า 

" ทำไม พระในพระพุทธศาสนา จึังขอทาน ... "

17 ม.ค. 2557

สร้างเหตุเกิด



[ เมื่อมีความยินดีพอใจในรูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ
สัตว์จะต้องเวียนว่ายตายเกิด ]
....

ในรูปคืออะไร ? เรายินดีพอใจในรูปมั๊ย ?

เรียบร้อย.. เวียนแน่ !!

เพราะว่าเรารู้สึกว่านี่รูปของเรา
ถ้าวันเราขาขาด - ทุกข์มั๊ย ? ทุกข์ !
วันไหนหมอบอกเป็นมะเร็ง - ทุกข์มั๊ย ? ทุกข์ !
วันนี้เราไปซื้อครีมมา ทา ทา
แล้วเราก็ยินดีพอใจกับการทา แล้วเนื้อหนังมันนิ่มเนี่ยะ

" นั่นท่านได้สร้างเหตุเกิด !!!! "

ถ้าหญิง กำลังทาแล้วเกิดความรู้สึกเนื้อนิ่มแห่งความเป็นหญิง
ท่านได้สร้างเหตุเกิดแห่งความเป็นหญิงในชาติหน้าต่อไป
แต่ปัญหา คือ คำว่า [ หญิง] ของท่าน

อ า จ จ ะ เ ป็ น ตั ว เ มี ย น ะ !!!

ไม่ใช่หญิงอย่างเดียว
เพราะอย่าลืมว่า แมวก็เลียขน หมาก็เลียขน วัวก็เลียขน !!!!

- อ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม -

                            

14 ม.ค. 2557

"มัคค์น้อย " คอร์สดีๆสำหรับเยาวชน

โครงการมัคค์น้อย กลับมาอีกครั้งแล้วนะคะ
ครั้งนี้เป็นครั้งที่ 7 
สนใจอยากให้เด็กๆของเราได้มีโอกาสเติบโตเป็นผู้ใหญ่ที่ดี
ก็เข้าไปอ่านรายละเีอียดของการเข้าร่วมโครงการได้ที่นี่นะคะ 

หรือ




กรอกแบบฟอร์มใบสมัครได้ที่  http://goo.gl/EXd4WQ 

2 ม.ค. 2557

ส.ค.ส.แด่ อาจารย์ประเสริฐ จาก หนึ่งในผู้เดินตามมรรค

วันก่อน ได้เข้า Facebook ในเพจ ผู้เดินตามมรรค  ได้พบข้อความที่โพสต์ไว้ชิ้นหนึ่ง 
ในข้อความนั้น เป็น ส.ค.ส. จากนักปฏิบัติท่านหนึ่ง ใช้ชื่อว่า "หนึ่งในผู้เดินตามมรรค " 
ใน ส.ค.ส.ชิ้นนี้ เป็นข้อความที่ถอดออกมาจากหัวใจนักปฏิบัิติคนหนึ่ง และเชื่อว่า น่า
จะเป็นการ "กล่าวแทน " หัวใจของนักปฏิบัิติอีกหลายๆคนที่รู้สึกเช่นเดียวกัน แต่ไม่รู้
ว่าจะกล่าวออกมาเป็นคำพูดอย่างไร  วันนี้ เรามีตัวแทนกล่าวคำนั้นให้แก่อาจารย์แล้ว 
ขอบคุณนะคะ ที่ทำมันขึ้นมา 
และขอบคุณที่ทำให้เรารู้สึกว่า เรายังมีเพื่อนร่วมเดินตามมรรค 
มิได้เดินลำพังโดดเดี่ยวแต่อย่างใด ... บน  ท า ง เ ดิ น แ ห่ ง ม ร ร ค เส้นทางนี้



ฟังเพลงในรูปแบบ MP 3ค่ะ



1 ม.ค. 2557

อาจารย์ประเสริฐ อวยพรวันเกิด

                         


วันเกิดของใครก็ไม่รู้                          ไม่มีผู้ทุกข์ ไม่มีผู้เกิด เมื่อทำลายถึงสุญญตาแล้ว ชำระจนหมดแล้ว

                                                        ก็มีแต่สภาพขันธ์ ที่เป็นไปตามธรรมชาติ ไม่มีเจ้าของแล้ว วันเกิด

                                                        ของใครก็ไม่รู้ ไม่มีผู้เกิด ไม่มีผู้ทุกข์

แต่ฉันไม่อยากเกิดมาอีกแล้ว

จู้ฮุกกรู

เกิดก็ต้องตาย ตายก็ต้องเกิด

ทางประเสริฐอยู่หนใด                        ทางประเสริฐอยู่หนใด อริยมรรคมีองค์ ๘ คือหนทางอันประเสริฐ

                                                       ที่จะนำสัตว์โลกก้าวพ้นไปจากวงเวียน เวียนวน เกิดแก่เจ็บตาย

ไม่มีใคร เกิดหรือตาย                         แน่นอน ไม่มีใครเกิดหรือตาย เป็นสภาพธรรมตามธรรมชาติ

                                                       เมื่อไมุ่ถูกยึดถือ ใครเป็นลูกศิษย์ท่านพุทธทาส ก็จะเข้ัาใจเรื่อง

                                                       ตัวกู  ของกู อย่างนี้ เมื่อสลายได้ ตายก่อนตาย ก็เหลือแต่สภาพธรรม

                                                       ตามธรรมชาติ แล้วใครจะเป็นผู้ทุกข์ล่ะ  ไม่มีแล้ว

หากเข้าใจ ในพระธรรม

เกิดก็วุ่นวาย ตายก็เสียใจ

ไม่มีใคร เกิดหรือตาย

เกิดดับเป็นอยู่ของมัน                        เกิดดับเป็นอยู่ของมัน อนิจจังเกิดขึ้นเพราะว่า รูป นาม แสดงอาการ

                                                       ของมัน เกิดขึ้น ดับไป บีบคั้น เพราะว่ามีเหตุปัจจัย มันก็จึงเป็นอนิจจัง

                                                       อยู่อย่างนี้แหละ

ปรากฎการณ์ ไม่ใช่ของฉัน                ปรากฎการณ์ไม่ีใช่ของฉัน สภาวธรรมตามธรรมชาติ อย่าไปยึดถือ

                                                       มาเป็นของเรา เมื่อไหร่สภาพทุกข์มันมีผู้ไปมีผู้ไปยึดถือ มันจะมีผู้

                                                       ทุกข์กับสภาพทุกข์นั้นทันที ขันธ์ทั้งหลายเป็นสภาพทุก วันนี้ืเรา

                                                       เข้าไปยึดถือ เราจึงเป็นทุกข์กับสภาพ เลยเกิดเป็นผู้ทุกข์ ทั้งๆที่สภาพ

                                                       ทุกข์มันมีอยู่  เมื่อเราปล่อยวางสภาพทุกข์นั้นทิ้งไปไม่สร้างเหตุเกิด

                                                       มันก็จะสลายตัวไป
ปล่อยมันทิ้งไป ไม่ยึดถือมัน

ทางนิพพาน อยู่ไม่ไกล                     ก็ อนุโมทนาครับ....

ที่มา : จากคอร์สเข้ม ไฟลุกกลางหอธรรม ณ สถานภาวนา พ.

           9 เมษายน  2556








31 ธ.ค. 2556

ความรักกับความยึดถือมั่น [ อ.ประเสริฐ ]

                         
- มุมมองความรักความผูกพัน และความยึดมั่นถือมั่น
จากอ.ประเสริฐ อุทัยเฉลิม -








10 ธ.ค. 2556

ช่วยภัยพิบัติใต้

เมื่อวันที่ 8 ธันวาคม 2556

องค์กร MAK! ร่วมกับ สวนยินดีทะเล และกลุ่มผู้ปฏิบัติธรรม ร่วมกันนำสิ่งของมอบให้กับ

ชาวนครศรีธรรมราช (ตำบลกรุงชิง อำเภอนบพิตำ )  "ช่วยภัยพิบัติใต้ "

ขออนุโมทนาในกุศลกรรมครั้งนี้ด้วยค่ะ

มาชมภาพบรรยากาศการแบ่งปันที่อบอุ่นใจร่วมกันนะคะ

( ขอขอบคุณรูปภาพทั้งหมดที่เือื้อเฟื้อโดยคุณ Supawee Tanausawanont ค่ะ )


















หรือ คลิกไปที่ road of outreach  ค่ะ

3 ธ.ค. 2556

บ้านเช่า




ฟังธรรมเรืิ่องตัวกู - ของกู ก็ดูเหมือนจะเข้าใจ แต่ก็ไม่เห็นว่าจะถอดถอนความเห็นผิดได้
เกิดอะไรขึ้น ก็มักจะเป็นทุกข์อยู่เรื่อย

อาจจะเป็นเพราะเราเกิดมากับกายใจนี้ 
จะบอกว่ามันไม่ใช่เรา  ข้างในก็เถียงขาดใจ 
ให้สังเกตดูกายใจ  ก็ไม่เห็นว่าจะเป็นธรรมชาติตรงไหน 
ก็ยังเห็นเป็นเราอยู่เรื่อยไป

16 พ.ย. 2556

แนะนำ new part ในมรรคาบรรณาลัย

-ขออนุญาตแนะนำ ส่วนเพิ่มเติมของบล็อคที่ได้จัดทำขึ้นใหม่นะคะ

ส่วนแรกคือ Part ของ studio ที่เก็บไฟล์เสียงการบรรยายธรรม ในรูปแบบของ MP3 นะคะ
เดิมที จะต้องลิงค์ไปที่เวปสวนยินดีธรรมก่อน ถึงจะเข้าไปฟังได้
แต่ตอนนี้ ปรับใหม่ให้ฟังได้ที่นี่เลยค่ะ แค่คลิกเท่านั้นก็ฟังได้เลย

ถ้าตำแหน่งใน มรรคาบรรณาลัย ก็จะอยู่ตรง Tab ด้านบน ชื่อว่า " เกิดมาต้องฟัง "
แต่ถ้ายังมองหาไม่เจอ กดตามลิงค์นี้เลยค่ะ ( อัพโหลดล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2556 )

คลิกเพื่อเข้าฟัง MP3

อีกส่วนหนึ่งคือ  Road of Outreach เป็น part ที่นำเสนอเกี่ยวกับงานด้านสาธารณกุศลของอาจารย์และทีมงาน MAK!(มัค) และสวนยินดีธรรม ที่เป็นการทำงานสาธารณกุศลเชิงรุก เป็นฝ่ายออกไปหยิบยื่นโอกาส มอบน้ำใจให้แก่ผู้ด้อยโอกาสถึงมือผู้รับ รวมถึงงานสืบทอดพระพุทธศาสนาให้แก่ทุกคนโดยไม่จำกัดเชื้อชาติศาสนา

ตำแหน่งของ Part นี้ใน มรรคาบรรณาลัย ก็จะอยู่ตรง Tab ด้านบน ชื่อว่า " งานสาธารณกุศล "
แต่ถ้ายังมองหาไม่เจอ กดตามลิงค์นี้เลยค่ะ ( อัพโหลดล่าสุด 16 พฤศจิกายน 2556 )

และในส่วนที่เราจะลืมเสียไม่ได้ เพราะธรรมะที่ได้รับการถ่ายทอดมาทุกวันนี้ ต้องขอยกคุณงามความดีให้แก่ท่านผู้มีพระคุณเราทั้งทางตรงและทางอ้อม ที่สำคัญคือเป็นผู้มีพระคุณต่ออาจารย์ประเสริฐอย่างสุดล้นคณานับ นั่นคือ คุณแม่ยินดี สุขสด ผู้ก่อตั้งสวนปฏิบัติธรรม "ยินดีธรรม " และ พระครูวินัยธรทรงศักดิ์ วิโนทโก หรือ หลวงพ่อเอี้ยน แห่งวังสันติบรรพต จ.สุราษฎร์ธานี จึงได้นำเรื่องราวที่น่าสนใจของทั้ง 2 ท่านนี้มาเพิ่มไว้ ณ มรรคาบรรณาลัยแห่งนี้ด้วย

ในส่วนของ คอร์สสวนยินดี ก็จะเป็นการแนะนำให้รู้จักสถานที่ปฏิบัติธรรมอีกแห่งหนึ่งที่ช่วยหมุนกงล้อพระพุทธศาสนาไปพร้อมๆกับ อาจารย์ประเสริฐ รวมถึงมีภาพประทับใจของผู้ที่เข้ารับการอบรม ประกอบคลิปวีดีโอที่ช่วยให้เห็นถึงบรรยาการแห่งการเจริญธรรม ณ สถานที่แห่งนี้ได้เป็นอย่างดี

นอกจากนั้น ในส่วนของ คอร์สหลวงพ่อเอี้ยน นั้นได้รวบรวม การแสดงธรรมของท่าน ณ ที่ต่างๆมาไว้ให้ชมบ้างเป็นบางส่วน ซึ่งหากท่านใดต้องการรับชมธรรมะของท่านอย่างเต็มอิ่ม ผนวกกับหลวงพ่อเอี้ยนท่านยังได้รวบรวมธรรมะไว้ในรูปแบบของหนังสือซึ่งมีคุณค่าอันประมาณมิได้อีกหลายเล่ม ท่านก็สามารถเข้าไปชมได้ที่ วังสันติบรรพต ก็จะได้พบกับขุมทรัพย์ของพระอริยะ อันประเสริฐต่อการน้อมนำมาปฏิบัติตามแน่นอนค่ะ

คลิกเพื่อชม มุทิตา : Muditā

9 พ.ย. 2556

หลงสร้างตัวตน


หิวข้าว !!!
อยากกินข้าวผัดกระเพรา
เดินไปกินร้านโปรด คนแน่นเหลือเกินเลยกินอีกร้านที่คนน้อยหน่อย ...
รสชาติไม่ได้เรื่อง หงุดหงิด ทีหลังไม่เอาแล้ววุ้ย..!

นี่ก็เหตุการณ์ธรรมดาของปุถุชน
ผู้สั่งสมสัญชาตญาณแห่งมิจฉาทิฏฐิทำอะไรก็ผิดไปหมด...ผิดยังไงหว่าก็เห็นเป็นกันอย่างนี้ทุกคนนี่

หิวข้าว เป็นเวทนาทางกาย ที่กายนี้แสดงออกเพื่อให้หาอาหารเติมเข้าไปง่ายๆว่าเขาต้องการอาหาร
เอ้าเปลี่ยนเป็นกายต้องการอาหารแล้วกัน
เดี๋ยวเจอพวกติดแต่คำของโลกอีกว่ามีเขามีเรา



จริงๆคำว่า หิวข้าว เป็นคำโลก แทนคำว่า กายต้องการอาหาร
เมื่อเติมอาหารให้ กายก็อยู่ต่อไปได้
ส่วนอยากกินผัดกระเพรา....เป็นความรู้สึกที่ถูกสร้างขึ้นมา

เวลาของภพภูมิ




โลกเราวัด 1 วัน ตรงที่การหมุนของโลกรอบตัวเอง

ดังนั้น1 วันไม่ได้มีความจริงอะไรเลย

เราสร้างกฎเกณฑ์ให้ใช้ตรงกันเท่านั้น

เหมือนปีใหม่

.....ฝรั่งว่า 1 มกราคม

.....จีนเอาตรุษจีน

.....ไทยเอา สงกรานต์

new year เลยไปกันคนละทางเพราะต่างคนต่างบัญญัติกันภายใต้เหตุผลของตน
แล้วของใครดีกว่ากัน ... โอ้ยเถียงกันไปเถอะ
เป็นเปรตเฝ้าเหตุเฝ้าผล ทุกข์กันไม่จบ เถียงเรื่องที่ไร้ค่า ยิ่งเถียงยิ่งทุกข์

ลองเอาเวลาที่ใช้นาฬิกาวัดออก
ลองใช้ความรู้สึกบอกซิว่า อันไหนนาน อันไหนเร็ว

31 ต.ค. 2556

เราหลงสมมุติ


  • คนนั้นเป็นคนดีนะ
  • คนๆนั้นไปเข้าคอร์สมา ไม่เห็นดีขึ้นเลย
  • เราไปทอดกฐินมา
  • เรากำลังจะไปเที่ยวต่างประเทศ ตื่นเต้นจัง
  • เราต้องไปทำงานทุกวันเลยเบื่อจริงๆ
ทุกคนคุ้นเคยกันเป็นปรกติกับประโยคพวกนี้ 
สิ่งที่นักปฏิบัติต้องทำเพื่อให้เห็นความจริงคือ
สลายประโยคพวกตีขลุมพวกนี้ออกก่อน
แล้วเข้าไปเห็นแต่ละขณะแทน
ลองดูนะ เริ่มจากประโยคแรก

29 ต.ค. 2556

กฐินบังคลาเทศ 2556 (ครั้งที่ 2)

ปีนี้ก็ต้องกลับมาขออนุญาตบอกบุญอีกครั้ง คือตามที่ได้นำเสนอทุกท่านไปเรื่องการสืบต่ออายุพระพุทธศาสนาในบังคลาเทศ ที่แต่ก่อนมีชาวพุทธกว่า 90% แต่ปัจจุบันเหลืออยู่เพียง 1-2 % เท่านั้น หากปล่อยให้เข้าสู่ขาลงอย่างนี้ไปโดยไม่มีการเข้าไปช่วยเหลือบ้างเลย พุทธศาสนาเห็นที่จะสูญสิ้นไปจากแผ่นดินนั้นอย่างแน่นอน

         เมื่อปีที่แล้วเราได้รับบริจาคเงิน ซึ่งนำไปสร้างวิหารและรับบริจาคเสื้อผ้าในการนำไปแจกให้กับชาวบ้านที่ขาดแคลน (ปีนี้งดรับบริจาคเสื้อผ้า เพราะลำบากในการขนส่ง) ความคืบหน้าในการสร้างวิหารนั้นก็เสร็จสมบูรณ์ สามารถเปิดใช้งานได้แล้ว โดยพวกเราจะไปทำพิธีเปิดวิหารอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 พฤศจิกายนนี้ ซึ่งเป็นวันทอดกฐินสำหรับปี 56 นี้ด้วย



สำหรับโครงการในปีนี้ซึ่งคาดว่าอาจจะเป็นปีสุดท้ายที่เราจะระดมทุนสร้างศาสนสถาน อันจะได้แก่ ที่พักสงฆ์ โรงเรียนพุทธศาสนา สถานฝึกอาชีพ โถงเอนกประสงค์ ซึ่งทั้งหมดจะอยู่ภายในอาคาร 2-3 ชั้นแล้วแต่เงินที่จะได้รับบริจาค เนื่องจากการก่อสร้างต้องใช้เงินจำนวนมาก เราจึงจำเป็นต้องระดมทุนในปีนี้อีกครั้งหนึ่ง

หลังจากนี้หากอาคารหลังนี้สร้างเสร็จ (จะพยายามผลักดันให้เสร็จให้จงได้) ในปีหน้าก็จะเป็นเรื่องของการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องมือที่จะช่วยอำนวยความสะดวกให้อาคารนี้ รวมถึงอุปกรณ์การฝึกอบรมชาวบ้าน เช่นจักรเย็บผ้า อุปกรณ์เครื่องนวดข้าวเพื่อหารายได้ให้กับวัดและการจัดหาอุปกรณ์ IT เพื่อฝึกอบรมเรื่องคอมพิวเตอร์ให้กับเด็กชาวพุทธได้พัฒนาศักยภาพและขีดความสามารถของตนเอง เพื่ออนาคตของพระพุทธศาสนาจะต้องฝากไว้กับคนเก่ง มีปัญญา และเป็นผู้นำในสังคมหมู่กลุ่มนั้นๆ


ในส่วนการช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก โดยปราศจากเชื้อชาติและศาสนานั้น เราได้ทำงานด้านสังคมสงเคราะห์ผ่านทางโรงเรียนและโรงพยาบาลไปควบคู่กันด้วยอย่างเต็มที่ โดยผ่าน MAK! เช่นกัน ด้วยการบริจาคอุปกรณ์ การเรียน เครื่องกีฬา เครื่องดนตรี เครื่องขยายเสียง ทีวี ดีวีดี พัดลมเพดานในทุกห้องเรียน เป็นต้น ที่ทำไปแล้วเป็นโรงเรียนประถม ปี 56 นี้ จะเข้าไปช่วยโรงเรียนระดับมัธยม ส่วนโรงพยาบาลจะเข้าไปดูว่าขาดแคลนอะไรเป็นลำดับต้นๆ หรืออาจจะเป็นเครื่องช่วยหายใจ ซึ่งจะขึ้นกับความต้องการของโรงพยาบาลเป็นหลัก เพราะฉะนั้น หากท่านมีความต้องการจะช่วยเหลือ และต่ออายุพระศาสนา รวมถึงช่วยเหลือผู้คนที่มีความเป็นอยู่อย่างยากลำบาก สามารถส่งความช่วยเหลือนั้น ผ่านทางหมายเลขบัญชี

ธนาคารไทยพาณิชย์ สาขา ถนนพัฒนาการ ( ออมทรัพย์)
ณัฐสุดา ธีระเลิศวงศ์ 123-2346-537

เราจะปิดรับบริจาคเพื่อจะนำเงินบาทไปแลกเป็นเงิน US dollar
ใน วันที่ 10 พฤศจิกายน 2556 นี้


ซึ่งเงินที่ท่านบริจาค ร่วมทำบุญมานั้นจะไปเป็นค่าอิฐ หิน ดิน ปูน ที่จะนำมาผสมรวมกันจนก่อเป็นอาคารที่ใช้ เพื่อประโยชน์ต่อพระศาสนาให้ยืนยาวต่อไป ทั้งยังจะไปเป็นข้าวปลาอาหารให้พระสงฆ์ สามเณรได้มีอาหารขบฉัน (เราเป็นเจ้าภาพจัดหาภัตตาหารอย่างดีที่สุดที่หาได้ เพื่อถวายพระในวันกฐิน รวมทั้งจะสร้างรายได้ให้วัดเพื่อจัดหาอาหารและซ่อมแซมวัดสืบต่อไป) และไปเป็นข้าวสารไปถึงชาวบ้านที่ยากไร้ (เราแจกข้าวสารทุกคน ทุกบ้านที่มาร่วมงานกฐินและแจกต่อไปเรื่อยๆในโอกาสพิเศษต่างๆ) และเป็นเงินยังชีพให้กับผู้ที่ไร้ที่พึ่ง ไม่มีญาติ ไม่มีรายได้ ได้มีกินมีใช้ต่อไปในส่วนของปี พย. 56 - ตค. 57

ในนามองค์กร MAK! 
ผมต้องขอขอบคุณที่ท่านมีจิตเมตตา กรุณาในการร่วมช่วยเหลือเพื่อนร่วมโลก และ ร่วมกันสืบทอด ต่ออายุพระพุทธศาสนาร่วมกันในปีนี้ คงไม่มีคำอวยพรใดใดที่จะมอบให้จิตใจอันประเสริฐ บริสุทธิ์ของท่านทั้งหลาย นอกจาก "ขอบุญกุศลในครั้งนี้ จงเป็นเหตุ เป็นปัจจัย ให้ท่านทั้งหลายได้เข้าถึงพระธรรมอันพระบรมศาสดาได้ตรัสรู้แล้ว โดยเร็วพลันด้วย เทอญ ด้วยเดชแห่งบุญนั้น"

พลังอันยิ่งใหญ่ มาพร้อมกับความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่...

ประเสริฐ อุทัยเฉลิม
สวนยินดีธรรม สุราษฎร์ธานี
สวนยินดีทะเล สิชล นครศรีธรรมราช

เข้าไปอ่านบทความต้นฉบับได้ที่่ เวปสวนยินดีธรรม ค่ะ
หรือ   http://www.suanyindee.net/index.php?option=news&task=view&id=490